[SHINee - SF] Please Don't Stop The Rain [JongKey] - [SHINee - SF] Please Don't Stop The Rain [JongKey] นิยาย [SHINee - SF] Please Don't Stop The Rain [JongKey] : Dek-D.com - Writer

    [SHINee - SF] Please Don't Stop The Rain [JongKey]

    Rain project by sakuragimji

    ผู้เข้าชมรวม

    1,409

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.4K

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 ก.ค. 54 / 22:08 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     


     


    Rain project by sakuragimji
    SF-Please Don't Stop The Rain
    Jonghyun x Key



    ผมเกลียดฝน...ถ้าเป็นไปได้ขอให้โลกนี้ไม่มีฤดูฝน


    FARRY' 25







    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       
       
       
       
      ผมเกลียดฝน...ถ้าเป็นไปได้ขอให้โลกนี้ไม่มีฤดูฝน
       

      จงฮยอนสบถออกมาไม่เบานักคนที่นั่งทำงานอยู่ใกล้ๆถึงกับสะดุ้ง เหตุเพราะเมฆฝนตั้งเค้ามืดครึ้มมาแต่ไกล ไม่นานนักหยดน้ำเล็กๆนับล้านก็พากันทิ้งตัวลงมาอีกไม่นานน้ำคงเจิ่งนองเต็มพื้นถนน กลิ่นไอดินลอยแตะจมูก หอม...แต่เขาไม่ชอบ

      สายฝนเย็นฉ่ำคงถูกใจใครหลายคนแต่ไม่ใช่กับคิม จงฮยอนคนนี้ที่เกลียดฝนเข้าไส้ อากาศก็ชื้น พื้นถนนก็เฉอะแฉะ แถมยังทำให้ลูกรักของเขาสกปรกอีกต่างหาก

      “มึงจะเอาอะไรกับฟ้าฝนนักวะ”มินโฮมองเพื่อนสนิทที่ออกอาการฟึดฟัดกับดินฟ้าอากาศ ฝนตกทีไรอาการวัยทองกำเริบทุกที ยังเคยคิดเล่นๆว่ามันไปโดนผู้หญิงหักอกในวันฝนตกหรือเปล่า

      “ก็กูไม่ชอบ เสื้อผ้ามันก็ไม่แห้ง จะออกไปไหนก็ไม่ได้ รถติดอย่างกับอะไรดี แมร่งงน่าเบื่อ”

      “โหย เสื้อผ้ามึงก็มีแม่บ้านทำให้ วันๆก็เห็นมุดหัวอยู่แต่ในบ้านซุกเด็กเอาไว้หรือเปล่าไม่รู้มึงไปเผชิญรถติดตรงไหนไม่ทราบ”มินโฮพูดอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหอบเอางานที่เหลือกลับไปทำต่อที่บ้าน ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้มีหวังโดนลูกค้าวีนแตกเขาต้องโดนหัวหน้าเชือดคอขาดแน่ๆ

      “กูไปก่อนนะ ถ้าเมิงจะกลับก็รีบกลับซะตอนนี้ฝนมันซาแล้ว”

      จงฮยอนโบกมือไล่เพื่อนตัวสูงให้ไปเสียทีเพราะรำคาญเสียงบ่นจะแย่ แต่สุดท้ายแล้วก็เห็นด้วยกับคำพูดของมินโฮว่าเขาควรจะกลับตอนนี้ก่อนที่ฝนจะเทหนักลงมาอีกครั้งให้เขาได้อารมณ์เสียยิ่งขึ้น

      ปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเพราะจงฮยอนลืมไปว่าเมื่อเช้ามาทำงานสายดังนั้นที่จอดรถในอาคารสำนักงานของตัวเองไม่พอจึงต้องเสียเวลาวนรถไปจอดอาคารฝั่งตรงข้ามซึ่งตอนนี้ฝนตกอยู่และเขาไม่มีร่มถ้าจะข้ามไปก็ต้องเดินตากฝน

      “ให้มันได้อย่างนี้สิวะ”หัวเสียไปก็เท่านั้นยังไงเสียเขาก็ต้องตากฝนไปเอารถอยู่ดี สายฝนปรอยๆไม่ได้ทำให้เปียกนักแต่ก็สร้างความรำคาญใจ อีกนิดเดียวเท่านั้นจงฮยอนก็จะเข้าไปหลบฝนใต้อาคารได้แล้วถ้าไม่มีเด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่งวิ่งมาชนเขาอย่างจัง

      “นี่มาวิ่งเล่นตอนฝนตกแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก แถมวิ่งบนถนนรถชนขึ้นมาจะทำไงห๊ะ?”หนูน้อยที่โดนดุทำท่าจะร้องไห้ จนจงฮยอนรู้สึกผิดที่ไปหงุดหงิดกับเด็ก5-6ขวบ ร่างหนาย่อตัวลงไปอุ้มหนูน้อยขึ้นมาแล้วพาเข้าไปใต้อาคาร

      “นี่อย่าร้องนะ ฉันไม่ถูกกะเด็กพอๆกับฝนนั่นแหละ”จงฮยอนรีบเช็ดน้ำตาเม็ดโตที่ร่วงมากระทบแก้มใส

      “ผมเจ็บ...ฮึก...พี่ชาย..ฮึก อย่าดุ ฮือออ”
       

      ซวยละกู...จงฮยอนได้แต่นึกอยู่ในใจ
       

      ไม่ถึงสิบนาทีหนูน้อยคนเดิมก็ยิ้มร่าพร้อมกับถืออมยิ้ม4-5อันอยู่ในมือ จงฮยอนถอนใจโล่งอกที่ทำให้เด็กหยุดร้องได้

      “นี่พ่อแม่เราอยู่ไหน ทำไมถึงปล่อยให้มาเดินคนเดียวเนี่ย”

      “บนนั้นฮะ”หนูน้อยชี้ขึ้นไปฟ้า จงฮยอนเงยหน้ามองตาม

      “อ่อ อยู่คอนโดนั้นเหรอ เดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วกัน”

      “ไม่เป็นไรฮะ ยูกึนกลับเองได้”

      “ตัวแค่นี้อ่ะนะ”เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก

      “ตามใจ แล้วอย่าไปวิ่งชนเขาเขาอีกล่ะ แล้วก็ระวังรถด้วยรู้มั้ย”

      “ฮะ พี่ชายใจดีเหมือนกันนะ”

      “ไม่ใช่แค่ใจดีนะ หล่อด้วย”ชมตัวเองอย่างไม่อายปาก

      “ยูกึนให้พี่”จงฮยอนมองของในมือเล็กที่ยื่นมาให้เขา
       

      ...ตุ๊กตาไล่ฝน...
       

      “พี่ชายไม่ชอบฝนใช่ม๊า ยูกึนให้นะ”คนแก่กว่ารับมาถือไว้อย่างงงๆ ตุ๊กตาสีชมพูหม่นผ้าพันคอสีเขียวเข้ม ใบหน้าเรียบสนิทเพราะส่วนที่เป็นปากนั้นยาวเป็นเส้นตรง ไม่เห็นยิ้มเหมือนที่เห็นในการ์ตูน พอเงยหน้าจะถามหนูน้อยยูกึนก็หายไปเสียแล้ว จงฮยอนส่ายหัวไปมาก่อนจะยัดเจ้าตุ๊กตาไล่ฝนลงกระเป๋ากางเกงแล้วก็ไม่ได้สนใจมันอีกต่อไป
       











      รถสปอร์ตคันหรูของสถาปนิกหนุ่มจอดสนิทในโรงรถ จงฮยอนมองลูกรักที่เปรอะคราบน้ำฝนอย่างเซ็งๆ สงสัยพรุ่งนี้เขาคงต้องขับเจ้าออดี้ไปแทนซะแล้ว

      ร่างหนาเดินเข้าบ้านขนาดกลางสไตล์เก๋ด้วยฝีมือการตกแต่งของตัวเองตั้งแต่การออกแบบยันการตกแต่งภายในบ้าน เขาแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวแต่ก็ใช่ว่าจะอยู่ไกลจากพ่อแม่ จริงๆแล้วบ้านพ่อแม่ของเขาอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เอง ดังนั้นเรื่องการทำความสะอาด การซักรีดเสื้อผ้าและอาหารการกินต่างๆไม่ต้องเป็นห่วงคุณแม่ของเขาให้แม่บ้านมาจัดการให้ทุกวัน

      จงฮยอนแวะหยิบเบียร์ในตู้เย็นก่อนจะเดินเลยขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืด ลมพัดแรงบอกให้รู้ว่าฝนระลอกที่สองกำลังจะตกลงมาในไม่ช้า ถอนใจอย่างเซ็งๆเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันแล้ววางกระป๋องเบียร์ลงตรงโต๊ะเครื่องแป้ง จัดการถอดเสื้อผ้าเพื่อเตรียมอาบน้ำ สิ่งที่จงฮยอนหลงลืมไปแล้วร่วงลงมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะถูกบ๊อกเซอร์ตัวเก่งทับลงมาอีกที มือหนาคว้าผ้าเช็ดตัวพาดบ่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
       

      เปรี้ยง
      !
       

      เสียงอสุนีบาตดังไปทั่วฟ้ากว้างและแสงสีขาวแสบตาพาดผ่านจากท้องฟ้าลงสู่พื้นดินที่ไหนสักที ก่อนที่ไฟจะดับลง


      “เฮ้ย
      !”จงฮยอนอุทานอย่างตกใจ ก่อนจะสบถออกมาเท้าที่กำลังจะก้าวลงอ่างอาบน้ำต้องชะงักไป พยายามคลำไปตามผนังห้องน้ำเพื่อหาผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้แต่ยังไม่ทันขยับตัวไปไหนไฟก็สว่างขึ้นอีกครั้ง

      “อะไรของมันวะ?
      !”เมื่อความสว่างกลับมาอีกครั้งจงฮยอนจึงลงไปแช่ตัวเพื่อขับไล่ความอ่อนล้าด้วยสายน้ำวนในอ่างอย่างสุขใจ
       





      “อี๋
      ~ ...จะอ้วก”อะไรบางอย่างยุกยิกอยู่ใต้กองเสื้อผ้าที่จงฮยอนถอดเอาไว้ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มือขาวเอื้อมไปหยิบสิ่งที่อยู่บนศีรษะของตัวเอง

      “อี๋
      ~~~”เสียงหวานใสร้องออกมาอีกรอบก่อนจะโยนบ๊อกเซอร์ทิ้งไปอีกทาง

      เด็กหนุ่มใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงลุกขึ้นยืน ร่างผอมบางมีเพียงผ้าสีชมพูหม่นคลุมกายเอาไว้กวาดตามองไปรอบห้อง พอเห็นสายฝนที่โปรยปรายอยู่ด้านนอกก็ถลาไปตรงระเบียงเปิดประตูออกแล้วยื่นมือไปรับน้ำฝนเย็นฉ่ำด้วยความดีใจ


      “ฝนจ๋า
      ~~”ดวงตาสีดำสนิททอประกายระยิบระยับพร้อมกับยิ้มหวานให้กับท้องฟ้าที่มืดมิด เมื่อได้เล่นน้ำจนพอใจแล้วเด็กหนุ่มจึงกลับเข้ามาในห้องเหมือนเดิม สายตาซุกซนกลับมาสำรวจห้องอีกครั้ง ที่ผนังห้องมีรูปขนาดใหญ่ของชายหนุ่มที่พาเขามาที่บ้านหลังนี้เปลือยท่อนบนติดอยู่


      “ฉันเดาว่านายต้องเป็นพวกหลงตัวเอง”ทำปากยื่นใส่รูป แล้วก็หันไปสนใจสิ่งอื่นต่อ กระป๋องโลหะสีเงินที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งเรียกความสนใจจากเจ้าของเรือนร่างบางได้อย่างดี ซอยเท้าเข้าไปใกล้แล้วหยิบมันขึ้นมาจ่อที่ปลายจมูก คนหน้าหวานยู่หน้าแต่ก็ลองจิบของเหลวในนั้นลงคอ


      “แหวะ...ไม่เห็นอร่อยเลย ทำไมมนุษย์ชอบกินกันจัง”
       

      แกร๊ก...
       

      เสียงลูกบิดประตูห้องน้ำทำให้ผู้บุกรุกตกใจตาโตวางกระป๋องเบียร์ลงที่เดิมแต่ด้วยความรีบร้อนมันจึงตกลงมาเสียงดัง แต่มีเวลาไม่มากที่จะเก็บกวาดร่างบางจึงหันรีหันขวางแล้วไปนั่งที่ปลายเตียง


      “เสียงไร...
      !? เฮ้ย!! มาอยู่ตรงนี้ได้ไงวะ?” จงฮยอนก้มลงมองบ๊อกเซอร์ที่พื้นหน้าห้องน้ำจำได้ว่าโยนไว้แถวตะกร้าผ้า


      “อ้าว ทำไมหกอย่างนี้เนี่ย เฮ้ย
      ! ใครเปิดประตูระเบียงวะ”จงฮยอนหงุดหงิดกับคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ เขาไม่ได้เป็นคนความจำสั้นถึงจะได้จำไม่ได้ว่าตัวเองเปิดประตูระเบียงทิ้งไว้ เอ๊ะ! หรือว่าเขาเปิดทิ้งไว้จริงแล้วลมก็พัดเอากระป๋องเบียร์ตกลงมาวะ


      “มันจะเป็นไปได้ไงวะก็ของอย่างอื่นมันก็ยังอยู่ที่เดิม”จงฮยอนมองไปรอบๆห้องเพื่อหาสิ่งผิดปกติแต่ก็ไม่เจออะไร พลันสายตาก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่างที่อยู่บนเตียงสีเข้มของตัวเอง
       

      ...ตุ๊กตาไล่ฝน...
       

      มือหนาคีบเชือกของเจ้าตุ๊กตาตัวเล็กขึ้นมาในระดับสายตา ก่อนจะแกว่งไปมาอย่างใช้ความคิด


      “หรือว่าแกเป็นคนทำวะ?”ชั่ววินาทีหนึ่งที่จงฮยอนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองตาฝาดเมื่อเห็นว่าไอ้ตุ๊กตาในมือส่ายหน้าปฏิเสธเขา


      “บ้าไปแน่ๆเลยกูเนี่ย”จงฮยอนสลัดหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดประหลาด


      “เป็นตุ๊กตาไล่ฝนใช่มั้ยเรา ดีเลยไปไล่ฝนให้หน่อย”จงฮยอนคว้าเอาเสื้อยืดที่หน้าตู้มาใส่ปกปิดร่างกายท่อนบน ขณะที่ท่อนล่างนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวก่อนจะหยิบเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยเดินไปที่ระเบียง ย่อตัวลงนั่งจับเชือกผูกเอาไว้กับราวเหล็กให้ตุ๊กตาห้อยต่องแต่งตามแรงลม


      “ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีๆล่ะ”ปลายนิ้วดีดที่หัวของตุ๊กตาไล่ฝนจนมันแกว่งไกวแล้วเดินกลับเข้าห้องไป


      น้ำจากฟ้าเทตัวลงมาไม่ขาดสายสาดจนผ้าสีชมพูหม่นเปียกปอน หากจงฮยอนหันกลับมามองคงได้เห็นว่าเส้นปากที่เคยตรงเป๊ะโค้งลงราวกับว่าตุ๊กตาตัวน้อยกำลังไม่พอใจ
      !
       

      “ฮัดชิ่ว
      ~”

      “คิก..”

      “ตลกมากรึไงห๊ะ ไอ้ตัวยุ่ง”

      “ก็ตลกสิ ตุ๊กตาไล่ฝนที่ไหนเขาไม่สบายเพราะโดนฝนกันมั่งล่ะ”คนที่กำลังหัวเราะอารมณ์ดีนั่งแกว่งขาอยู่บนราวระเบียง

      “แล้วมันเป็นเพราะใครล่ะ เล่นก็เล่นด้วยกันแท้ๆทำไมมีแต่ฉันคนเดียวที่โดนลงโทษด้วยเนี่ย”

      “ก็เพราะนายคือคีย์ แล้วฉันคือแทมินไงล่ะ พี่จินกิเลยไม่ลงโทษฉัน คิก..”คีย์กอดอกสะบัดหน้างอนๆใส่เพื่อนรักที่หักหลังกันได้ลงคอ ทั้งที่ช่วยกันเอาคทาวิเศษเรียกฝนไปซ่อนด้วยกันแท้ๆ

      “น่าน่ะ แค่ไม่กี่ฝนเองเดี๋ยวนายก็ได้กลับขึ้นข้างบนแล้ว ว่าแต่เจ้านายใหม่นี่หล่อดีนะ”

      “โหยยย หล่อที่ไหนเตี้ยอีกต่างหาก ทำไมนายเลือกไอ้หมอนี่ล่ะ”

      “ก็เห็นว่าหล่อดี คิดว่าเหมาะกับนาย เขาใจดีนะซื้ออมยิ้มให้ฉันตั้งหลายอันแน่ะ”

      คีย์สะบัดหน้าใส่อีกรอบ...เห็นแก่กิน...เขาก็อยากกินบ้างอะไรบ้าง อมยิ้มน่ะ
      !

      “ฉันไปละนะ ขอให้มีความสุขในหน้าฝนปีนี้กับเจ้านายสุดหล่อนะ”

      “ไรเนี่ยทิ้งกันอ่ะแทมิน...แทมิ๊น
      ~~”คีย์ร้องเรียกเสียงหลงเมื่อเพื่อนรักหายตัวไปซะแล้ว ใบหน้าน่ารักบึ้งตึงหันมามองค้อนคนที่นอนหลับอยู่ในห้องอย่างพาลๆ

      “หล่อตรงไหน แถมยังใจร้ายเอาเค้ามาแขวนตากฝนอีก ชิ
      ~”
                 
      คีย์ค่อยๆย่องเข้ามาข้างในพอเห็นคนใจร้ายนอนหลับสบายอุรากางแข้งกางขาเต็มเตียงแล้วรู้สึกหมั่นไส้ ร่างเล็กกระโดดขึ้นไปบนเตียงนั่งคุกเข่าลงข้างๆร่างที่หลับใหล

      “อยากรู้นักว่าหล่อมากแค่ไหน แทมินมันถึงได้ยัดเยียดให้นัก”ใบหน้าหวานโน้มลงเพื่อมองหน้าอีกคนให้ชัดเจน เป็นจังหวะเดียวกับที่จงฮยอนพลิกตัวมา คีย์ตาโตตกใจไม่กล้าขยับตัวเมื่อปลายจมูกของตัวเองกับคนที่หลับอยู่ชนกันพอดี ดวงตาคมลืมขึ้น เพียงแค่สบตากันคีย์ก็รู้สึกว่าตัวเองได้กลายเป็นหินไปเสียแล้ว 



      จงฮยอนยิ้มให้...และคีย์ยิ้มตอบ


      จากนั้นเจ้าของบ้านหนุ่มก็หลับตาลงแล้วพลิกตัวกลับไปอีกด้าน ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


      ทุกอย่างเงียบสนิท...ร่างบางหายไปจากห้องนอน...


      ตุ๊กตาตัวน้อยแกว่งไกวอย่างแรงอยู่ที่ราวระเบียง ถ้ามองดีๆเหมือนว่ามันจะแก้มแดงขึ้นด้วยนะ
      !
       












      “ไอ้จง
      !! ไอ้น้องผ่าเหล่า”เสียงแปดหลอดดังกระแทกหูคนที่ยังนอนอืดอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นอย่างงงๆ ประตูห้องนอนเปิดผลัวะเข้ามาโดยไม่รอให้ใครอนุญาต

      “ไอ้จง ตื่นๆ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย”

      “อะไรเนี่ยเจ๊
      ! โหยย...คนจะนอนไปบ้าที่อื่นไป๊!”คนเป็นน้องเอ่ยปากไล่ขณะที่พลิกตัวเอาหมอนปิดหัวปิดหูแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมโปงอีกที เสียงที่ทิ่มแทงโสตประสาทเงียบไปนาน...นานจนรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพี่สาวตัวเองถึงได้รามือไปง่ายๆจึงจำใจโผล่หัวออกมาดู

      “หาอะไรอ่ะเจ๊?”จงฮยอนดันตัวขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง มองพี่สาวที่เดินพล่านไปทั่วห้องของตัวเอง เปิดประตูห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า ระเบียงด้านนอก มุดดูใต้เตียง และ...

      “เฮ้ย
      !!!!!!!!!! หยุดเลยเจ๊ หยุ๊ดดดดดดดดดดดดดด”จงฮยอนรีบตะปบผ้าห่มเอาไว้ได้ทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปดก่อนที่มันจะถูกกระชากออกจากตัว แล้วใช้เท้าดันร่างพี่สาวให้ออกห่าง

      “ไอ้เป็ดบ้าแกมาถีบฉันทำไมเนี่ย!”

      “เจ๊น่ะแหละยัยบ้า มาเปิดเสื้อเลิกผ้าผมทำไมเนี่ย!! หอบหื่นแต่เช้าเลยนะเจ๊ กะน้องกะนุ่งก็ไม่เว้น”จงฮยอนดึงผ้าห่มมาปิดถึงคอมองพี่สาวด้วยความหวาดระแวง ตื่นเต็มตาเลยทีนี้ เมื่อกี้ที่ตะครุบมาน่ะห่างจงฮยอนน้อยไปไม่กี่เซ็นต์เองเสียววาบเลยนะเว้ย!

      “แกนั่นแหละ ซ่อนสาวไว้ในนี้ใช่มั้ย!”

      “สาวที่ไหน?? ไม่มีอ่ะ บ้าป่ะเนี่ย!”

      “อย่ามาโกหก เดี๋ยวนี้พาสาวเข้าบ้านนะแก อย่าคิดว่าแกแยกมาอยู่บ้านนี้แล้วฉันจะไม่เห็นน่ะ”

      “โหยยย จะไปมีได้ไงเนี่ย นี่ก็อดอยากปากแห้งมาตั้งนานแล้วมัวแต่ทำงานงกๆจะมีเวลาที่ไหนไปคั่วสาววะเจ๊”จงฮยอนโอดครวญพลางล้มตัวลงไปนอนต่อ

      “ไม่ต้องมาหนีนอนเลยแก ตื่นมาคุยกับฉัน”มือเรียวคว้าไหล่น้องชายเอาไว้กระชากให้หันหน้ามาคุยกัน

      “อะไรอีก นี่ยังเช้าอยู่เลยนะขอนอนก่อนได้ป่ะเนี่ย”

      “ไม่ได้ เมื่อคืนนี้ฉันเห็นมีคนอยู่ในห้องแก”

      “ตาฝาดแล้ว จะมีใคร ผมก็อยู่คนเดียว”

      “แต่ฉันเห็นเขายังยืนเล่นน้ำฝนอยู่ตรงระเบียงห้องแก กล้องส่องทางไกลฉันน่ะประสิทธิภาพสูงส่งนะจะบอกให้”

      “ห๊ะ!!!! เจ๊โรคจิตป่ะเนี่ย ขนาดเอากล้องส่องทางไกลมาจับตาดูกันเลยเหรอ?”ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ใครอยู่ในห้องอีกแล้ว

      “ฉันจะได้รายงานแม่ถูกไงว่าแกพาสาวเข้าบ้านรึเปล่า เผื่อไปทำลูกสาวใครท้องจะรับมือทัน”คนเป็นพี่ก็หลงประเด็นไปเรียบร้อย

      “ระดับนี้ไม่มีพลาดหรอกน่า ชอบส่องดีนักใช่มั้ย คราวหลังจะเปิดม่านโชว์หนังสดให้ดูเลยนี่ อยากรู้เจ๊จะกล้าดูจนจบหรือเปล่า”

      “ไอ้บ้า! ไอ้ทะลึ่ง! ไอ้ลามก! ไอ้เตี้ย!”

      “เฮ้ย อันหลังไม่เกี่ยว!”รีบแย้งทันที

      “ทำไม ฉันพอใจจะด่าแกอ่ะ”แทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามาทำอะไรที่นี่ แต่พอเหลือบไปเห็นตุ๊กตาไล่ฝนที่ห้อยอยู่ด้านนอก คิม จียองจึงนึกขึ้นมาได้อีกครั้ง

      “แต่ฉันเห็นจริงๆนะ มีคนอยู่ในห้องแกตอนที่ฝนตกอ่ะ”

      “แก่แล้วหูตาฝ้าฟางนะเราอ่ะ กลับไปดื่มวีต้าแล้วนอนไป๊ บอกว่าไม่มีก็ไม่มีดิ ถ้ามีจริงพ่อจะจับปล้ำซะให้เข็ดเลย”

      “ไอ้หื่น! อย่าให้ฉันจับได้คาหนังคาเขานะแก ฝากไว้ก่อนเถอะ”จียองคาดโทษน้องชายเอาไว้ก่อนจะเดินกระแทกส้นปึงปังออกจากห้องไป จงฮยอนล้มตัวจะนอนต่อ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อประตูห้องเปิดขึ้นมาอีกครั้ง

      “อะไรอีกเจ๊...”เสียงเหนื่อยหน่ายเต็มที

      “ฉันแค่จะบอกว่า นี่มันแปดโมงกว่าแล้วนะยะ ถ้าแกจะนอนต่อ ไปทำงานสายแน่”

      “เฮ้ย!”ร้องออกมาได้แค่นั้นพอเหลือบมองนาฬิกาที่หัวเตียงก็ต้องรีบแจ้นลงจากที่นอนนุ่มแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
       












      “ไง...”

      “ไง...”ทักกลับไปด้วยคำเดียวกัน จงฮยอนทำหน้าเซ็งแล้วทิ้งตัวลงนั่งหลังโต๊ะทำงานของตัวเอง

      “เป็นไรวะ โดนหัวหน้าบ่นแค่นี้ทำหน้าอย่างกะขี้หักใน มึงไม่ชินอีกไง?”

      “เป็นมึงจะชินมั้ยครับไอ้คุณชเว โดนด่าเมื่อไหร่ก็ไม่ชินทั้งนั้นแหละ”ย้อนด้วยสีหน้าเซ็งโลกสุดๆ มาสาย ลืมงาน รถดับ โดนด่ายับ

      คิม จงฮยอนจะโทษว่ามันเป็นเพราะฝน
      ! เพราะฝนตกมันเลยทำให้อากาศเย็นแล้วแมร่งก็น่านอนสุดๆ คิมจงฮยอนแมร่งก็เลยนอนตื่นสาย แถมรถติด เจอน้ำท่วมเครื่องเลยดับเลยต้องมารถไฟ แล้วก็ถึงที่ทำงานสายจนได้ มิหนำซ้ำยังลืมงานไว้ในรถกลับไปเอาก็ไม่ทัน ลูกค้าโวย หัวหน้าด่า


      แมร่ง
      ! ชีวิตโคตรบัดซบ เกลียดฝนจริงๆ
       

      แม้จะเข้าช่วงบ่ายมาแล้วแต่ฝนเจ้ากรรมก็ยังไม่เหน็ดเหนื่อยโรยตัวลงมาหนาตามากกว่าเดิม ทำให้ต้องสั่งอาหารมากินที่ออฟฟิศแทนการออกไปนั่งชิลมองสาวๆตามร้านอาหาร


      “กรมอุตุฯบอกว่าช่วงนี้พายุเข้ามันจะตกหนักแบบนี้ไปตลอดอาทิตย์”


      “อือ...อากาศแมร่งน่านอนว่ะ”จงฮยอนไถตัวราบไปกับโต๊ะขณะที่มือถือพิซซ่าและปากยังเคี้ยวหยับๆ


      “เชี่ย มึงช่วยทำทีละอย่างนะจะกินหรือจะนอน เห็นแล้วกูอนาถใจ”


      “แต่กูก็ไม่ชอบฝนตกอยู่ดี แมร่งน้องออดี้กูเป็นไงมั่งวะเนี่ย ดีนะที่กูไม่เอาน้องเล็ก(เล็คซัส)ลูกรักกูมาวันนี้”ยังคงคร่ำครวญอย่างต่อเนื่อง


      “ชีวิตมึงก็มีเท่านี้อ่ะนะ รถ บ้าน งาน ผู้หญิงโลกนี้เขาหนีมึงไปหมดแล้ว”


      “โหยว่าแต่กูมึงอ่ะมีแล้วไง? ไอ้เปรตเอ๊ย”จงฮยอนถีบขาเพื่อนตัวสูงอย่างหมั่นไส้


      “เชี่ย กูเจ็บ”มินโฮก้มตัวลงเอาคางเกยโต๊ะแล้วยื่นมือไปใต้โต๊ะเพื่อจับหน้าแข้งตัวเอง ทำให้ใบหน้าอยู่ระนาบเดียวกับคนที่นอนกิน


      “มึงอย่ามามองกูแบบนี้ เสียวสันหลังฉิบ”มินโฮพูดเมื่อเห็นจงฮยอนมองตัวเองตาเป๋ง แล้วอยู่ๆก็เด้งตัวขึ้น


      “เฮ้ย
      ! มึงเป็นไร ทำกูตกใจ!”


      “มินโฮ เมื่อคืนนี้กูยิ้มให้ใครวะ??”


      “ห๊ะ???
      !!!”คนถูกถามงงเป็นไก่ตาแตก เพื่อนเขามันโดนฝนมากจนเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่าวะ


      จงฮยอนพยายามนึกถึงเหตุการณืเมื่อคืนตอนที่เขากำลังเคลิ้มเขาเห็นใครบางคนกำลังจ้องหน้าอยู่ก็เลยยิ้มให้ แต่ว่า....ใครวะ??


      “เชี่ย มินโฮ
      ! กูต้องโดนผีหลอกแน่ๆเลยมึ๊งงงง!!!!”จงฮยอนเขย่าเพื่อนรักจนหัวสั่นหัวคลอน


      “อะไรของมึงเนี่ย
      !!!”
       














      “คิก...”

      “นี่พอแล้วน่า ดื่มเข้าไปเยอะแบบนี้เดี๋ยวคุณคนหล่อก็สงสัยหรอกคีย์”แทมินพยายามดึงขวดไวน์ที่คีย์ค้นเจอออกจากมือบางของเพื่อนรัก เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานๆเริ่มแดงซ่านเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ถึงจะเป็นภูตแต่ก็เมาได้นะ
      !

      “อีกนิดนะ เขาไม่รู้หรอก ของอร่อยแบบนี้นานๆจะได้ดื่ม”แทมินส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจก็เป็นเสียแบบนี้...ดื้อ
      !


      คีย์ถูกลงโทษกักบริเวณให้อยู่ในตุ๊กตาไล่ฝน จะสามารถออกมาข้างนอกได้ก็ต่อเมื่อฤดูฝนมาถึงและจะเป็นเช่นนี้ไปอีก 9 ฝนก็จะพ้นโทษ สำหรับมนุษย์มันอาจจะนานเพราะใช้เวลาถึง 9 ปี แต่สำหรับโลกภูตของพวกเขามันก็แค่ 9 วันเท่านั้นเอง
      ! มีข้อแม้ว่าจะต้องหาเจ้าของที่เกลียดฝนให้ได้!


      “คีย์อ่ะ ถ้าถูกเขาจับได้ฉันไม่ช่วยนะ”


      “อย่ามาพูดเลยแทมิน พอฉันเดือดร้อนทีไรนายก็วิ่งหนีก่อนเป็นคนแรกตลอดเลย”ไม่งั้นเขาคงไม่ได้ต้องตกอับจากภูตชั้นกลางมาเป็นภูตที่สิงอยู่ในตุ๊กตาไล่ฝนเหมือนพวกภูตชั้นล่างหรอก


      “โอ๋ๆๆๆ ก็มันลืมตัวนี่นา แต่ฉันก็ช่วยคีย์แล้วนะ หาเจ้านายให้คีย์นี่ไง คีย์อ่ะเรื่องมากเปลี่ยนเจ้านายมาหลายคนแล้วนะ คนนี้เป็นคนสุดท้ายได้มั้ยล่ะ”


      “ไม่รู้ถ้าไม่ถูกใจปีหน้านายต้องหาให้ฉันใหม่ด้วย”บอกอย่างงอนๆแล้วจิบไวน์รสเลิศลงคออย่างไม่สำนึกว่ามันพร่องไปเกือบครึ่งขวดแล้ว
      !

      แทมินยิ้มกริ่มเพราะรู้สึกมั่นใจอย่างประหลาดว่าคุณคนหล่อคนนี้จะต้องเป็นเจ้านายคนสุดท้ายของคีย์จนกว่าจะครบอีก 9 ฝน
      !
       

      เสียงรถที่แล่นมาจอดที่หน้าบ้านทำให้แทมินตกใจตาโต รีบดึงเพื่อนซี้ให้ลุกขึ้น


      “คีย์ ลุกเร็วเขากลับมาแล้ว”


      “หืมมม ใครกลับมาอ่ะ??”เมาไปเรียบร้อยแล้วอีหรอบนี้


      “เอาไงดีเนี่ย
      !”แทมินมองเพื่อนที่ฟุบกับโต๊ะสลับกับประตูหน้าบ้านก่อนจะตัดสินใจจับมือข้างหนึ่งของคีย์ไว้แล้วร่ายมนตร์
       


      ตุบ
      !
       

      “โอ๊ยย ทำไมหนักอย่างนี้เนี่ยคีย์อ่ะ...”คนตัวเล็กกว่าบ่นอุบ วางคีย์ไว้บนเตียงเพราะไม่สามารถพาไปได้ไกลกว่านี้


      “คีย์ นี่ กลับเข้าตุ๊กตาไปซะ”


      “.....”


      “คีย์อ่า...ต่อไปจะไม่ให้ดื่มแล้วนะ”แทมินทำท่าจะร้องไห้เมื่อเพื่อนรักไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาใกล้


      “ตัวใครตัวมันนะ
      !”

       

      แกร็ก...
       



      เจ้าของห้องปิดประตูตามหลังก่อนจะเหวี่ยงเสื้อนอกไว้ที่โซฟา เดินเลยไปหน้ากระจกถอดนาฬิกา สายรัดข้อมือและแหวนวางไว้ ปลดกระดุมเสื้อจนเกือบถึงเม็ดสุดท้าย แล้วมองใบหน้าตัวเองในกระจกก่อนจะยื่นเข้าไปใกล้เพื่อเช็คดีกรีความหล่อของตัวเองอย่างใกล้ชิด แต่จังหวะที่ถอยออกมาหางตาก็เหลือบเห็นอะไรแวบๆที่ริมกระจก ยิ่งจ้องมองก็ยิ่งชัดเมื่อสิ่งที่เขาเห็นไม่ได้หายไปไหน ร่างหนาหันมาทางเตียงของตัวเองช้าๆ
       


      “....
      !!!!!!!!”
       


      “แกเป็นใครวะ
      ! ขโมยเหรอ?”อารามตกใจคว้าไม้เบสบอลข้างโต๊ะเครื่องแป้งมาถือไว้แล้วค่อยๆเดินเข้ามาหาคนที่นอนแผ่อยู่บนเตียงของตัวเอง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาหลังจากตะโกนถามออกไปก็คือความเงียบ จงฮยอนให้ปลายไม้เขี่ยแรงๆ อีกคนจึงพลิกตัวหนีแล้วจัดท่าทางให้ตัวเองนอนสบายกว่าเดิม ขวดไวน์ที่ติดมือมากลิ้งตกจากเตียงน้ำสีม่วงแดงหกนองพื้น


      “เฮ้ย ไวน์ปี 88 ของกรู
      ~~”แทบจะร่ำไห้เมื่อเห็นของที่ตัวเองเฝ้าถนอม ยังไม่เคยได้ชิมแม้แต่นิดเพราะความเสียดายและราคามันก็แพงมากไหลออกจากปากขวดจนหมด


      “นี่แกลุกขึ้นมาเลยน่ะ มาทำแบบนี้กับของๆฉันได้ไงวะ
      !!”จงฮยอนกระโจนใส่คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย


      “ฮื้อออ ขออีกนิดนนะ
      ~”เสียงหวานอู้อี้ติดรำคาญดังขึ้น ยิ่งทำให้อีกคนโมโห


      “ไม่นิดแล้ว ลุกขึ้นมาเลยนะ”จงฮยอนดึงร่างอีกคนให้หันมา พอเห็นหน้าชัดๆแล้วก็ถึงกับอึ้งไป...เหมือนเคยเห็นที่ไหน...แต่นึกไม่ออก


      “อืมมม แทมิ๊นนน
      ~ เอาอี๊กกก~”


      “ไม่ใช่แทมิ๊นนนเว้ย อย่ามาทำเมากลบเกลื่อนความผิดนะ”จงฮยอนเขย่าคนตัวบางจนแทบจะหักสองท่อน คีย์ปรือตาขึ้นมองแล้วยิ้มให้


      “ยิ้มทำไมวะ ไอ้หัวขโมย เฮ้ย
      ! จะทำอะไรเนี่ย!”จงฮยอนร้องเสียงหลงมือแขนเรียวโน้มคอเขาลงไป


      “ปล่อยนะ เอ้ย...อย่า จะทำไรเนี่ย
      !!”


      “ไอ้จง
      ! แม่ให้มาบะ...ว้ายยย แก...กรี๊ดดดดดดดด”


      “เฮ้ย
      ! เจ๊ ช่วยผมก่อน!!!”
       
       







      “นี่ไงคะแม่ เด็กคนนี้ที่หนูเห็นในห้องไอ้จงเมื่อคืนก่อน”


      “ไม่ใช่นะแม่ ผมไม่รู้จักด้วยซ้ำ”จงฮยอนปฏิเสธพร้อมกับปรายตามองคนที่นอนอยู่บนเตียงตัวเอง ดูเอาเถอะ คนคุยเสียงดังขนาดนี้ยังหลับไม่รู้เรื่องอีก


      “ไม่รู้จักบ้าอะไรเมื่อกี้ฉันยังเห็นแกฟัดนัวกันบนเตียงอยู่เลย”


      “ผมเปล่า
      !”ปฏิเสธเสียงหลง


      “พอๆทั้งคู่เลย แม่เวียนหัวไปหมดแล้ว”คุณนายคิมยกมือห้ามสองพี่น้อง ก่อนจะมองคนที่หลับตาอยู่ด้วยความสนใจ


      “หน้าตาน่ารักดีนะ เราไปพาลูกใครเขามา พรากผู้เยาว์หรือเปล่า”


      “โธ่แม่ เขามาเองนะ ผมไม่พาเขามาเลย ไม่รู้จักด้วยซ้ำ ผมกลับมาก็เจอเขานอนอยู่บนเตียงผมแถมยังขโมยไวน์ที่คุณลุงซื้อมาฝากด้วย”


      “อะไรน่ะ
      ! ไอ้ขวดที่ฉันอยากดื่มแล้วแกเอาไปซ่อนน่ะเหรอ”จียองถามเสียงหลง


      “เออนั่นแหละ ไอ้เด็กนี่มันจัดการซะครึ่งขวดอีกครึ่งนี่ไหลนองอย่างที่เจ๊เห็นนั่นไง”จงฮยอนพยักเพยิดไปที่พื้นช้างเตียง จียองมองตาละห้อยด้วยความเสียดาย


      “เดี๋ยวๆ เรื่องไวน์เอาไว้ก่อน อย่าโกหกแม่นะจงฮยอน ถ้าไม่รู้จักกันเขาจะมาอยู่ห้องลูกได้ไง”


      “ปีนเข้ามามั้งฮะแม่ ผมก็ไม่รู้”คนเป็นลูกตอบอย่างเหนื่อยใจ


      “แม่ไอ้จงมันเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ต้องถามคู่กรณีดีกว่า ความจริงเขาอาจโดนลูกชายแม่มอมไวน์แล้วทำมิดีมิร้ายก็ได้”


      “เจ๊นั่นมันนิยายแล้ว”น้องชายบอกอย่างหงุดหงิด แล้วอย่างเขาน่ะไม่จำเป็นต้องมอม สมยอมกันทุกคน
      !


      “ปลุกเขาสิจงฮยอน”
       

      คนตัวเล็กขยับตัวยุกยิก เปลือกตาบางค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสีนิล ภาพที่เห็นคือคนสามคนที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ คีย์ยิ้มหวานให้กับทุกคน ก่อนจะได้สติลุกพรวดพราดจากที่นอนนุ่ม


      “ว๊าย
      !/เฮ้ย!”สองพี่น้องผงะหนีด้วยความตกใจ ขณะที่คุณนายคิมเอามือทาบอกเอาไว้ คีย์มองคนนั้นทีคนนี้ทีแล้วคิดในใจ...ซวยแล้ว...


      “หนูเป็นใครจ๊ะ”


      คีย์ก้มหน้าไม่ตอบอะไร คุณนายคิดเลยเปลี่ยนคำถามใหม่


      “มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงจ๊ะ”คราวนี้คีย์เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปทางจงฮยอนพร้อมทั้งชี้นิ้ว


      “เขาพาผมมาฮะ”


      “เฮ้ย
      ! ฉันเปล่า”


      “โหย ไอ้จงเขาพูดถึงขนาดนี้แกยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอ”


      “อะไรเจ๊ ก็ผมไม่ได้ทำจริงๆนะ”


      “พอทั้งคู่เลย เอาเถอะจะยังไงก็ช่าง จงฮยอนถ้าคบกับเขาแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆหรอก...เราชื่ออะไรจ๊ะ...”
       

      “คีย์ฮะ”

      “คีย์เขาก็น่ารักดีนะแม่ว่า”คุณนายคิมพูดยิ้มๆ ก่อนจะดึงตัวลูกสาวที่ตั้งท่าจะโวยวายออกไปปล่อยให้ลูกชายอ้าปากพะงาบๆพูดแก้ตัวไม่ทัน


      “นี่นาย”จงฮยอนหันมาเล่นงานคนที่นั่งอยู่กลางเตียง


      “ชื่อคีย์”สวนกลับทันที


      “เออจะคีย์เคออะไรก็ช่างเหอะ ไปบอกกับแม่แบบนั้นได้ไง ฉันไปพานายมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”


      “เมื่อวานนี้ไง”ตอบหน้าซื่อแต่อีกคนกลับโมโหระคนงง


      “เมื่อวานนี้???”จงฮยอนพยายามคิดว่าเมื่อวานเขาหิ้วเด็กนี่กลับด้วยเหรอ


      “บ้ากันไปใหญ่แล้ว เมื่อวานฉันกลับมาคนเดียว เหล้าก็ไม่ได้กินถึงจะจำไม่ได้ว่าพาใครกลับมาด้วย เป็นขโมยใช่มั้ยเนี่ยแล้วมาใช้มุกนี้เพื่อไม่ให้ฉันจับส่งตำรวจใช่มั้ย?”


      “เปล่าขโมย
      !”แม้ว่าจะดื่มไวน์ไปครึ่งขวดก็เหอะ!


      “อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน “จงฮยอนย่างสามขุมเข้ามาหาอย่างช้าๆ ทิ้งตัวลงนั่งบนที่นอนแล้วมองคีย์ด้วยสายตาจ้องจับผิดและท่าทางคุกคามของอีกฝ่ายทำให้คีย์ต้องเอนตัวหนี ตอนนี้เหมือนกับว่าจงฮยอนคร่อมตัวอีกฝ่ายเอาไว้เกือบครึ่งตัว ตาทั้งคู่สบกันนิ่งนาน คีย์เกร็งไปทั้งตัว...ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่จงฮยอนรู้สึกเหมือนกับว่าเคยได้สบตาคู่นี้มาแล้วเช่นกัน


      “นาย...คนเมื่อคืน....”ราวกับรำพึงรำพันกับตัวเอง


      “จำได้ด้วยเหรอ?”คีย์ถามออกไปเสียงเบาเพราะอยู่ใกล้กันแค่ฝ่ามือกั้น


      “นายจริงๆด้วย
      !!”จงฮยอนร้องออกมาเสียงดังถอยห่างออกมาจากอีกคน คีย์มองตาปริบๆ


      “นายเป็นใครกันแน่?”คีย์ยิ้มหวานให้ก่อนตอบ


      “ตุ๊กตาไล่ฝนของคุณไง”ในเมื่อเห็นเขาแบบนี้แล้วคงไม่มีประโยชน์อะไรถ้าจะปิดบังต่อไป ดีซะอีกเขาเองจะได้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอยู่แต่ในตุ๊กตา


      “ไม่ตลก”


      “พูดจริงๆนะ ฉันเป็นตุ๊กตาไล่ฝนที่คุณผูกไว้ตรงระเบียงน่ะ คุณใจร้ายเอาฉันไปตากฝนทั้งคืนเลยหนาวจะตาย”คีย์บ่นอุบ แต่จงฮยอนนั่งทำหน้าเหวออยู่ปลายเตียง


      “ไม่เชื่อเหรอ???”คีย์ถาม จงฮยอนพยักหน้ารับหงึกๆ


      “งั้นเดี๋ยวทำอะไรให้ดู”คีย์ยิ้มหวานอีกรอบก่อนที่ร่างจะหายวับไป


      “เชี่ยยยยยยยยยยย
      !!!!!!!!!!!!!!!!!”จงฮยอนกระโดดลงจากเตียงแล้วไปแอบอยู่หลังประตูห้องน้ำอย่างขวัญหนีดีฝ่อ


      “ผีหลอกกูจริงด้วยมินโฮ๊วววววววววววว
      ~”จงฮยอนโหยหวนออกมา


      “ไม่ใช่ผีนะ ฉันเป็นภูต”เสียงหวานดังจากทางด้านหลัง


      “เฮ้ย
      !!!”
       
       
       













      จงฮยอนยังหวาดผวากับภูตหน้าหวานที่นั่งจิบไวน์ที่ปลายเตียงของเขา ถ้าหากไม่หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเขาไม่มีทางเชื่อเรื่องพวกนี้เด็ดขาด
      ! และตอนนี้เขาได้ย้ายตุ๊กตาไล่ฝนตัวปัญหาเข้ามาผูกเอาไว้ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เพราะเจ้าตัวบอกว่าไม่ชอบตากฝนมันหนาวเดี๋ยวจะไม่สบายได้


      ภูตโดนฝนแล้วไม่สบาย
      ! แบบนี้มันจะไปไล่ฝนได้ไงวะ???


      “นี่จงฮยอน ไอ้นี่อร่อยจังเลย มีอีกมะ?”


      “ที่โลกภูตไม่มีหรือไง”ถามออกไป ตาก็มองขาก็เดินแบบทิ้งระยะห่างถึงห่างมากเพื่อไปนั่งที่โซฟาอีกด้านนึงของห้องนอน


      “ก็ไม่มีนะสิ ขออีกนะ”หันไปทำตาวิ้งๆใส่


      “พอแล้ว เมื่อกลางวันก็แอบดื่มไปตั้งเยอะเมาจนหลับไปเลยไม่ใช่เหรอ บ้านฉันไม่ได้เป็นโรงงานผลิตไวน์นะ”จงฮยอนมองคนหน้าคว่ำปากยื่นแล้วก็ยิ้มออกมานิดๆ ความจริงก็น่ารักมากกว่าน่ากลัวนะเนี่ย...และเพราะความน่ารักเลยทำให้สาวเท้าเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว


      “พรุ่งนี้ค่อยดื่มใหม่วันละแก้วพอนะ โอเค๊?”


      “แก้วเดียวเองเหรอ”คีย์ทำตาปรอยใส่จงฮยอนที่เดินมาดึงขวดไวน์ออกจากมือตัวเอง
                 

      “หรือว่าจะไม่ดื่มเลยเลือกเอา”
                 

      “ก็ได้ ขี้งกจริงๆ”บ่นอุบ “อย่าให้เผลอนะจะฟาดให้หมดทุกขวดเลย”ส่วนประโยคนี้พูดเบาๆกับตัวเอง
                 

      “ว่าไงนะ?”
                 

      “เปล๊า~”
       
                 
      “สรุปว่านายจะผูกติดกับฉันไปตลอดเลยรึไงเนี่ย”จงฮยอนถามคน เอ้ย ภูตที่เดินตามเขาต้อยๆไม่ว่าเขาจะขยับตัวไปทางไหนก็ตาม
                 

      “ก็ใช่น่ะสิ จงฮยอนเป็นเจ้านายฉันนะ”จงฮยอนหันมามองคนตอบก่อนจะเดินขึ้นบันไดต่อไปโดยไม่หันมามอง พอเปิดประตูห้องนอนก็ต้องสะดุ้งเมื่อภูตตัวดีนั่งไขว่ห้างส่งยิ้มหวานให้อยู่ปลายเตียง
                 

      “นี่ อย่าผลุบๆโผล่ๆแบบนี้สิ ฉันก็ตกใจเป็นนะ”ถึงแม้คีย์จะอยู่กับเขาได้เกือบอาทิตย์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ชินอยู่ดี ยังไงไอ้ตัวน่ารักที่พูดคุยกับเขาอยู่ตอนนี้มันก็ไม่ใช่คน!
                

      “แหม ก็ไม่รู้จะเดินทำไมให้เมื่อยนี่”
                 

      “เมื่อยกับเขาเป็นด้วยเหรอ”
                 

      “ก็...พูดไปงั้นแหละ คิก~”จงฮยอนส่ายหัวไปมา...เพี้ยน!
                 

      “นี่จงฮยอน”นิ้วเล็กจิ้มเบาๆที่ต้นแขนของเจ้าของชื่อ
                 

      “อะไรอีก วันนี้ดื่มไวน์ไปแล้วนะ”จงฮยอนดักคอไว้ก่อน ภูตตัวนี้เลี้ยงง่ายไม่เปลืองข้าวแต่เปลืองไวน์มากและมันก็แพงด้วย!
                 

      “ซักฉันทีสิ”
                 

      “หืม?...ซัก?”หน้าคมปิดความสงสัยไว้ไม่มิด ถามซ้ำเพื่อความแน่ใจอีกที
                 

      “ใช่...นั่นอ่ะ ซักคีย์ให้ทีนะ”ภูตน้อยส่งเสียงออดอ้อนพลางชี้ไปที่ตุ๊กตาไล่ฝนที่แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้า
                 

      “นี่ตกลงใครเป็นเจ้านายกันแน่เนี่ย”
                 

      “จงฮยอนไง~”ตอบเสียงระรื่นจนคนฟังหมั่นไส้ แต่ก็ยังลุกไปหยิบตุ๊กตาสีชมพูหม่นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนเจ้าของร่างก็วิ่งดี๊ด๊าตามเข้าไปด้วย
                 

      “นี่ๆ เอานี่อันนี้ห๊อมหอม~”คีย์จิ้มจึกไปที่แชมพูสระผมขวดสีชมพูหวานที่จงฮยอนเกลียดนักหนาแต่โดนพี่สาวบังขับขู่เข็ญให้ซื้อมาเพื่ออะไรก็ไม่รู้ ตั้งทิ้งไว้นานได้ใช้งานก็วันนี้
                 

      “รู้ได้ไงว่าหอม”จงฮยอนหรี่ตามองคนอย่างจับผิด ตอนที่เขาไปทำงานไม่รู้ว่าไปซนไปรื้ออะไรออกมาเล่นมากินก็ไม่รู้ คีย์ยิ้มแหยๆออกก่อนตอบ
                 

      “ก็ลองดมมาหมดแล้วอ่ะ”
                 

      “ซน!”คนถูกว่าทำปากยื่นหน้างอทันที
                 

      จงฮยอนอย่าโกรธนะ ก็คีย์อยากรู้นี่นา”หลังๆจงฮยอนเริ่มจับได้แล้วว่าเวลาที่จะอ้อนหรือง้อ ไอ้ตัวแสบชอบแทนตัวเองว่าคีย์เสมอ แล้วเป็นอะไรก็ไม่รู้ ทำไมเขาต้องใจอ่อนทุกที...นี่เขาสนิทกับภูตแล้วใช่มั้ยวะ?
                 

      “เอาสะอาดๆนะ”
                 

      “เออรู้แล้วน่า ไปยืนดูเฉยๆไป๊”จงฮยอนโบกมือไล่คนที่ยืนกำกับอยู่ข้างๆ แต่ร่างเล็กก็ไม่ได้ขยับไปไหนยืนมองตาแป๋ว
                 

      “มาซักเองเลยมั้ย?”
                 

      “ไม่เอาอ่ะ ให้จงฮยอนทำให้ดีกว่า”ส่ายหน้าดิกทำแก้มพองลมอีกต่างหาก อยากรู้จริงๆว่าภูตนี่น่ารักทุกตัวไหม
                 

      “คีย์อาบน้ำมั้ย?”
                 

      “อาบทำไม เป็นภูตไม่ต้องอาบหรอก”
                 

      “แต่ใส่ชุดนี้มานานแล้วนะ ไม่อยากเปลี่ยนเหรอ รุ่มร่ามด้วยเนี่ย”จงฮยอนมองผ้าสีชมพูหม่นที่ติดตัวคีย์มาตั้งแต่เห็นกันครั้งแรกจนพี่สาวเขาคิดว่าเขาทำอะไรๆคีย์ไปเรียบร้อยแล้ว
                 

      “แล้วจะให้ใส่อะไร”เอียงหน้าถามด้วยความสงสัย
                 

      “เสื้อผ้าธรรมดาเหมือนฉันไง เดี๋ยวหาให้...อ่ะเสร็จแล้ว”


      จงฮยอนชูเจ้าตุ๊กตาไล่ฝนที่สะอาดเอี่ยมอ่องสีชมพูสดใสให้คีย์ดูหลังจากล้างฟองออกจนหมดแล้ว คีย์ยิ้มแป้นเดินตามจงฮยอนออกไป วันนี้ท้องฟ้าสดใสจงฮยอนจึงผูกตุ๊กตาเอาไว้กับราวระเบียงเพื่อให้โดนแดดจะได้แห้งไวๆและหอมกลิ่นแดดอ่อนๆ จงฮยอนยื่นมือไปยีผมสีดำสนิทเล่นเมื่อเห็นคนตัวเล็กดีอกดีใจที่เห็นร่างของตัวเองแกว่งไกวตามสายลม
       








      “จงฮยอนไม่มีแฟนเหรอ?”


      “ไม่มีหรอก ว่าแต่รู้จักคำว่าแฟนด้วยเหรอเราอ่ะ”


      “รู้จักสิ เจ้านายคนก่อนก็มีแฟนทั้งนั้นแหละ เขาเลยไม่ค่อยสนใจฉันเลย”คนตัวเล็กทำหน้าหงอย


      “เหงาละสิ”


      “ความจริงก็ชินแล้วล่ะ แต่ก็มีแทมินคอยคุยด้วยไม่เหงาเท่าไหร่ อีกอย่างคนพวกนั้นเขาก็ไม่เห็นฉันหรอก”จงฮยอนไม่เอ่ยถามว่าแทมินคือใครเพราะคีย์เล่าให้เขาฟังหมดแล้วเพียงแต่ไม่เคยเห็นตัวจริงเท่านั้น...และเขาก็ไม่ยินดีที่จะได้เห็นเท่าไหร่นัก


      “ทำไมถึงไม่เห็นล่ะ”


      “ก็ฉันไม่ออกมาให้เห็นนี่นา เดี๋ยวพวกนั้นจะช็อคหัวใจวายไปซะก่อน”


      “แล้วกับฉันล่ะ นี่ก็หัวใจเกือบวาย อยู่ๆก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตา”คีย์หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ


      “กับจงฮยอนมันเป็นอุบัติเหตุไม่ได้ตั้งใจอ่ะ ก็ไวน์ของจงฮยอนมันอร่อยนี่นา”จงฮยอนหัวเราะเบาๆ เมาไวน์ของเขาจนหลบเข้าไปในตุ๊กตาไม่ทันละสิท่า


      “แต่ก็ดีนะ อยู่กับจงฮยอนสนุกดีไม่เหงาด้วย”คีย์ยิ้มเอาใจ แอบหวังไว้ลึกๆว่าพรุ่งนี้จงฮยอนอาจจะให้เขาดื่มไวน์มากกว่าเดิม


      “แล้วจะอยู่ด้วยกันถึงเมื่อไหร่”


      “หมดฤดูฝนนี่แหละจากนั้นก็ต้องอยู่แต่ในตุ๊กตานั่น”เห็นแววตาเศร้าๆแล้วก็อดสงสารไม่ได้แต่ไม่วายแหย่อีกคนให้หน้างอเล่น


      “ก็อยากซนเองนี่ช่วยไม่ได้”ได้ผลหน้าหวานงอง้ำขึ้นมาทันทีจนต้องกลั้นยิ้มเอาไว้เต็มหน้า


      “แต่กว่าจะถึงวันนั้นคีย์ก็อยู่ในบ้านนี้ได้ ไม่ต้องซ่อนตัวหรอกยังไงซะฉันก็เห็นแล้ว แต่ขอร้องอย่าหายตัวไปมาฉันตกใจ”จงฮยอนเบรคเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะทำอะไรแผลงๆ


      “ได้เล๊ย~ขอบคุณนะ~”คีย์ยิ้มดีใจ...จงฮยอนใจดีอย่างที่แทมินบอกจริงๆด้วย...ใจดีจนเขารู้สึกอุ่นที่หัวใจ
       
       













      จงฮยอนเงยหน้ามองท้องฟ้ายามเย็นที่มีเมฆฝนตั้งเค้าให้เห็น นึกแปลกใจตัวเองที่เขาไม่ได้หงุดหงิดเหมือนก่อนเท่าไหร่ แต่ก็อย่าเพิ่งตกมาตอนนี้เลยเพราะเขาอยากให้ถึงบ้านก่อน จากนั้นจะตกราวกับฟ้ารั่วยังไงเขาก็ไม่ว่าอะไรสักคำ แถมยังดีใจด้วยซ้ำไปเพราะเขาจะได้เห็นใครบางคนกระโดดโลดเต้นเล่นน้ำฝนด้วยความสนุกสนาน


      “ไอ้จงวันนี้ไปดริ๊งค์เหล่สาวแหล่มๆกัน”คนตัวสูงพาดแขนลงบนไหล่คนตัวเล็กกว่า


      “ไม่ล่ะ อยากกลับบ้านไวๆ มึงดูโน่นฝนจะตกอยู่แล้ว”


      “ไม่เคยได้ยินเหรอวะ อยู่ใต้ฟ้าจะกลัวอะไรกับฝน”


      “เคย แล้วกูก็ไม่ได้กลัวฝนด้วย แค่ไม่ชอบ”แม้ตอนนี้จะชอบขึ้นมาหน่อยๆแล้วก็ตามแต่เรื่องอะไรจะบอกให้มันต้องถามหาเหตุผล จงฮยอนจึงโบกมือลาเพื่อนสนิทแล้วเดินไปยังลานจอดรถที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทันที


      “แม่งทำอย่างกะซ่อนสาวไว้ที่บ้านแล้วต้องรีบกับไปจ๊ะจ๋าอย่างงั้นล่ะ”มินโฮพูดกับตัวเองก่อนจะโบกแท็กซี่ไปนั่งชิลคนที่เดียวที่บาร์ขาประจำ
       

      “นี่เจ๊มาทำอะไรที่บ้านผมเนี่ย!”

      “อะไรยะ ฉันก็เข้านอกออกในบ้านแกเป็นปกติ แหม...พอพาแฟนมาอยู่ด้วยหน่อยทำมาเป็นมีความลับกับฉันเหรอ”

      “แฟน?...”กำลังจะถามต่อแต่คำตอบของคำถามเขาก็ออกมาเสียก่อน

      “จงฮยอน~กลับมาแล้วเหรอ”คีย์ยิ้มร่าวิ่งมาจากในครัว

      น้องคีย์เนี่ยน่ารักนะ ดีกว่าผู้หญิงคนก่อนๆของแกตั้งเยอะ”จียองรู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มมาก ดูน่ารักสดใสไม่มีพิษมีภัยซึ่งไม่เหมาะกับน้องชายเธอจริงๆ


      “เอ่อ...”เจ้าของบ้านหนุ่มถึงกับพูดไม่เป็นไปชั่วขณะ ถ้าเข้าใจเป็นแฟนก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย เขาก็จะได้ไม่ต้องหาเหตุผลอะไรมาอธิบายว่าทำไมคีย์ถึงอยู่ในบ้านนี้อีก ดีที่หาเสื้อผ้าคนธรรมดาให้คีย์ใส่แล้วไม่งั้นยัยพี่บ้ามันต้องนึกว่าเขาจับกดคีย์ทั้งวันทั้งคืนไม่ให้ใส่เสื้อผ้าแน่ๆ!


      “ฉันไปก็ได้ ไม่รบกวนเวลาอี๋อ๋อของแกแล้ว”พูดเสร็จก็เดินย้ายก้นงอนๆจากไป จงฮยอนรีบวิ่งไปล๊อกประตูเอาไว้กันพี่สาวย้อนกลับมาใหม่

      “เฮ้อ~”ถอนหายใจโล่งอก...“เฮ้ย! บอกแล้วว่าอย่าโผล่มาแบบนี้”ว่าคนที่พรวดพราดเข้ามาขวางหน้าเขาไว้

      “อะไรเล่า แค่เดินมาเฉยๆ ขวัญอ่อนจริงนะ”จงฮยอนอยากจะเถียงนักว่าลองมาเป็นเขาบ้างมั้ยล่ะ ชายหนุ่มส่ายหน้าระอาใจแล้วเดินขึ้นข้างบนได้ยินเสียงอีกคนบ่นหงุงหงิงตามมา พอหันเห็นหน้ามุ่ยๆปากยื่นๆนั่นมันหมั่นเขี้ยวจริงๆให้ตาย

      “คีย์...มานี่สิ”กวักมือเรียกคนตัวเล็กหลังจากที่นั่งลงตรงปลายเตียงเรียบร้อยแล้ว อีกฝ่ายก็ว่าง่ายเดินเข้ามาโดยไม่รู้ตัวว่าจะต้องเจอกับอะไร

      “นี่แน่ะๆๆ”แก้มใสถูกหยิกและดึงเบาๆ คนถูกกระทำได้แต่หัวเราะถูกใจ

      “ไม่เจ็บเหรอ?”จงฮยอนถามอย่างแปลกใจ

      “เป็นภูตน่ะไม่เจ็บหรอก นอกจากภูตด้วยกันจะทำกันเอง”จงฮยอนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะคิดอะไรได้

      “แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ”

      “หวา
      ~”ร่างเล็กถูกรวบมากอดเอาไว้แน่นจากตอนแรกที่ดิ้นขลุกขลักหาทางหนี คนในอ้อมกอดกลับแน่นิ่งจนคนแกล้งแปลกใจ จงฮยอนดันร่างบางออกแล้วก็ต้องอึ้งทำอะไรไม่ถูก คีย์กำลังหน้าแดงและแดงขึ้นเรื่อยๆเมื่อสบตาเขา...
       


      ปึง
      !
       


      จงฮยอนสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างที่อยู่ตรงหน้าหายไปพร้อมกับเสียงดังปึงที่ประตูตู้เสื้อผ้า ตุ๊กตาไล่ฝนที่แขวนไว้แกว่งไปมาอย่างแรง พอได้สติจงฮยอนก็หัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่อยู่...เพิ่งรู้ว่าภูตก็เขินเป็นเหมือนกันแหะ










      “นี่...ออกมาเถอะ”ประโยคที่จงฮยอนพูดมาเกือบชั่วโมงเพื่อให้ภูตจอมยุ่งออกมาคุยกัน ปลายนิ้วเขี่ยที่แก้มของตุ๊กตาไล่ฝน


      “คีย์ คีย์ คีย์..ออกมาคุยกัน เลิกเขินได้แล้ว”พูดไปก็ยิ้มไปเหมือนกับคนบ้าและคงเป็นคนบ้าที่มีความสุขมากๆด้วย แกล้งภูตมันสนุกอย่างนี้นี่เอง

      “คีย์อ่า...อย่าให้ฉันพูดคนเดียวแบบนี้ดิ่”จงฮยอนเขย่าเชือกตุ๊กตาเบาๆแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      “ไม่ออกมาใช่ป่ะ ได้
      ~”ร่างหนาเดินออกจากห้องนอนไปพร้อมรอยยิ้มมุมปาก คราวนี้รับรองว่าต่อให้เขินยังไงก็ต้องออกมาแน่ๆ จงฮยอนกลับขึ้นมาพร้อมบางสิ่งในมือ
       

      ป๊อก
      ~
       

      “อืม...รสดีจริงๆ ถึงจะไม่ใช่ปี 88 แต่ก็หวานละมุนลิ้นแถมยังห๊อมหอม
      ~”ร่างหนานั่งพิงหัวเตียงในมือถือแก้วไวน์ที่เพิ่งจิบลงคอไป สายตาคมจับจ้องตุ๊กตาสีชมพูสดใสผิดกับบรรยากาศด้านนอก ฝนกำลังจะโรยตัวลงมาในไม่ช้า

      “เสียดายแทนใครบางคนจริงๆ อดของอร่อย”จงฮยอนแกล้งพูดเสียงดังหวังให้อีกคนได้ยิน แล้วรินไวน์ใส่แก้วอีกรอบ แต่ยังไม่ทันได้ดื่ม แก้วในมือก็ถูกแย่งไปซะแล้ว

      จงฮยอนยิ้มขำเมื่อคนตัวเล็กดื่มไวน์อักๆรวดเดียวจนหมดแก้ว

      “ค่อยๆเดี๋ยวก็สำลักหรอก”ปลายนิ้วอุ่นบรรจงเช็ดมุมปากที่เลอะคราบสีแดงเข้ม

      “อร่อย
      ~”เสียงหวานร้องบอกพร้อมกับใช้เรียวลิ้นเล็กเลียริมฝีปากอิ่ม

      “เอาอีกมั้ย?”

      “ได้เหรอ?”คนถามทำตาเป็นประกายวิ้งวับ จงฮยอนยิ้มเอ็นดูภูตขี้เมาก่อนจะรินไวน์ให้อีกแก้ว

      “เดี๋ยวสิ”เสียงทุ้มเอ่ยห้ามก่อนที่อีกคนจะดื่มเข้าไป

      “อะไร เปลี่ยนใจเหรอ?”คนถามหน้าเศร้า เมื่อแก้วในมือถูกอีกคนดึงไปถือไว้

      “เปล่า...แต่ว่ามีอีกวิธีที่จะดื่มไวน์ให้อร่อย อยากรู้มั้ยว่าต้องดื่มยังไง”ถามอย่างเจ้าเล่ห์แต่อีกฝ่ายก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยพยักหน้าหงึกหงัก

      “หลับตาสิ”

      “ต้องหลับตาด้วยเหรอ?”

      “เอาน่า เดี๋ยวเปลี่ยนใจนะ”


      คนตัวเล็กทำแก้มพองลมแต่ก็หลับตาลงแต่โดยดีเพราะไม่อยากอดสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ เพียงไม่นานสัมผัสแปลกๆก็แตะลงบนกลีบปาก คีย์ลืมตาโพลงด้วยความตกใจแต่ก็ถอยหนีไปไหนไม่ได้เพราะโดนอีกฝ่ายกอดเอวไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ประคองอยู่ที่ท้ายทอย ลิ้นอุ่นบังคับให้เขาเปิดปากออก ก่อนของเหลวรสหวานชวนมึนเมาจะไหลผ่านโพรงปากลงไปอย่างช้าๆ ดวงตาเรียวหลับลง มือบางที่วางไว้บนอกของอีกฝ่ายกำแน่นเมื่อลิ้นหนากวาดชิมความหวานในโพรงปากเล็ก


      “ดื่มอีกไหม?”ถามซ้ำเมื่อผละริมฝีปากออก ใบหน้าหวานก้มลงต่ำ คีย์ไม่รู้ว่าไวน์ที่หวานกว่าที่เคยดื่มมันเป็นเพราะอะไร เพราะจูบ...หรือเพราะหัวใจที่เต้นแรงของตัวเองกับจงฮยอน

      “ทำแบบนี้เลิกกลัวฉันแล้วเหรอจงฮยอน...”ถึงเขาจะเป็นภูตแต่ก็ใช่ว่าไม่รู้ถึงสิ่งที่จงฮยอนทำหมายความว่าอย่างไร

      “ก็กำลังกำจัดความกลัวอยู่นี่ไง...”ปลายนิ้วเกลี่ยที่พวงแก้มใสสีเรื่อ

      “อย่าเขินกันจนหนีกลับเข้าไปในตุ๊กตาอีกล่ะ”คีย์ช้อนตามองอีกฝ่ายก่อนจะเบือนหน้าหนี
       


      “คิก
      ~”คนที่นั่งแกว่งขารับลมฝนอยู่ด้านนอกระเบียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เขาบอกแล้วว่าเจ้านายคนนี้เหมาะกับเพื่อนของเขาที่สุด

      คีย์คงอยากให้ฤดูฝนปีนี้ยาวนานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน แต่ก่อนที่หยาดฝนหยดสุดท้ายจะจากไป...

      “มีความสุขมากๆนะคีย์”แทมินมองเพื่อนรักที่กำลังดื่มไวน์อย่างดูดดื่ม ก่อนจะหายวับไปเมื่อสายฝนโปรยปรายลงมา
       






      “จงฮยอน
      ~คีย์ชอบชุดนี้จังเลย”ร่างหนามองคนตัวเล็กในชุดนอนลายทางของตัวเองแล้วยิ้มบางๆ เขาต้องให้คีย์เปลี่ยนชุดใหม่เพราะชุดเดิมที่เจ้าตัวใส่มันเลอะเทอะไปหมด เลอะไวน์นะครับ กรุณาอย่าคิดลึก!


      “นิ๊มนิ่ม สบายตัวจัง”


      “คีย์ คืนนี้นอนด้วยกันนะ”จงฮยอนจับมือเล็กเอาไว้พลางทำเสียงอ้อนไหนๆก็ได้จูบภูตไปแล้วนอนกอดภูตก็คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม

      “...อืม”รับคำเบาๆ แต่อีกคนได้ยินอย่างชัดเจน ดึงร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แนบอก สูดเอากลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของคนตัวบางเข้าปอด...หัวใจของเขาเต้นรัว...ราวกับกำลังตกหลุมรัก
       










      “นี่..ยิ้มไม่หุบเลยนะ”คีย์เอี้ยวตัวมองเจ้าของคำพูดก่อนจะสะบัดหน้าใส่งอนๆ

      “แทมินทิ้งฉัน”

      “อะไรล่ะ มาโทษกันได้ไงก็คีย์ดื่มจนเมาเองนี่นา เตือนแล้วก็ไม่เชื่อกันบ้างเลย”คนถูกว่ายิ่งหน้างอ

      “แล้วหลังจากนั้นล่ะ หายไปเลยนะ ไม่เห็นมาหากันบ้าง”

      “พี่จินกิใช้ให้ฉันไปดูแลพวกภูตฝึกหัดเหนื่อยจะตาย ใครจะว่างมาเที่ยวเล่นได้ล่ะ แต่ตอนที่ฉันหายไปคีย์ก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนี้”แทมินเอ่ยแซว แก้มใสสุกปลั่งขึ้นมาทันที

      “ขอบใจนะแทมิ๊น
      ~~”คนตัวบางโถมเข้ากอดเพื่อรักที่นั่งบนราวระเบียงแทบจะหงายหลังลงไป

      “อะไร??”

      “ขอบใจที่เลือกจงฮยอนเป็นเจ้านายของฉัน”

      “เขาดูแลคีย์ดีใช่มั้ยล่ะ”

      “อืม..ดีมาก”ก้มหน้ารับคำอย่างเขินอาย

      “คีย์...หลงรักเจ้านายแล้วใช่มั้ย”

      “หะ..ท..แทมิน...”คีย์อ้ำอึ้งพูดไม่ออก...เมื่อนึกถึงคำว่ารัก

      “อีกไม่นานเทพีแห่งสายฝนก็จะเข้าสู่นิทราแล้วนะคีย์”แทมินเอ่ยขณะที่เงยหน้ามองท้องฟ้า

      “ฉันรู้...ฉันไม่ควรออกมาให้จงฮยอนเห็นแต่แรกเลย”

      “อย่าทำหน้าเศร้าสิ ฤดูฝนหน้าฉันจะมอบนายให้กับคุณคนหล่ออีก”

      “ฉันสงสารจงฮยอนจังเลยแทมิน”



      คีย์รู้ว่าจงฮยอนก็รู้สึกไม่ต่างจากตน ความสุขที่ได้รับในแต่ละวัน ความผูกพันที่มีให้กันทำให้พวกเขาหลงลืมไปว่า...เราต่างกัน...ทั้งภพและเวลา สำหรับเขามันเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆในการรอคอยจงฮยอน แต่สำหรับจงฮยอนนั้นต้องใช้เวลานานนับปีกว่าเทพีแห่งฝนจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง


      “อีกไม่กี่ฝนนายก็จะมีอิสระแล้ว จากนั้นจะมาเจอคุณคนหล่อบ่อยแค่ไหนหรือตลอดไปก็ยังได้”แทมินพยายามปลอบใจ


      “สำหรับจงฮยอนมันคือ 9 ปีนะแทมิน มันนานเกินไปสำหรับมนุษย์ “


      “เอาน่า อย่าคิดมากกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึงสิ เหลือเวลาไม่มากคีย์ก็ตักตวงความสุขเอาไว้สิ นะยิ้มหน่อยนะ”แทมินให้กำลังใจเพื่อน เขาเองก็รู้สึกเห็นใจและรู้พอๆกับที่คีย์รู้เช่นกัน แต่การจะมานั่งเสียใจกับเรื่องพวกนั้นสู้เอาเวลาที่เหลือทำทุกวันให้เป็นวันที่ดีที่สุดดีกว่า


      “ฉันต้องไปแล้วล่ะ พอหยาดฝนสุดท้ายหมดลงฉันจะมารับคีย์”
       
       










      คนในอ้อมกอดขยับตัวยุกยิกจนจงฮยอนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ข้างนอกฝนกำลังตกปรอยๆ เงาของกิ่งไม้ไหวตามแรงลมทาบทับลงบนผืนผ้าม่านสีขาวที่โบกพริ้วเบาๆ

      “นอนไม่หลับเหรอ”

      “ขอโทษที่ทำให้ตื่น”คนตัวเล็กเงยหน้าสบตาคม

      “ไม่เป็นไร ...คีย์คิดอะไรอยู่ หืม?”ร่างเล็กพลิกตัวหันหลังให้สายตาจับจ้องที่ชายผ้าม่าน วงแขนแกร่งวางพาดเอวร่างเอาไว้หลวมๆ

      “คีย์รักจงฮยอนนะ”คำสารภาพดังขึ้นท่ามกลางเสียงฝนที่ตกกระทบใบไม้ด้านนอก จงฮยอนซุกหน้าลงที่ซอกคอขาว เสียงทุ้มกระซิบบอกคำรักข้างหูจนหัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

      “อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นสุดฤดูฝนแล้วนะจงฮยอน”คนที่อยู่ด้านหลังเงียบไปจนคีย์ต้องพลิกตัวกลับไปอีกครั้ง จงฮยอนนอนลืมตาอยู่ในความมืด ก่อนจะตวัดแขนกอดอีกคนเอาไว้

      เขารู้ดีว่าคีย์กำลังจะบอกว่าอะไร...เวลาของเขากับคีย์กำลังจะหมดลงแล้ว แต่ความรักของเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง

      “จงฮยอนจะลืมคีย์มั้ย”

      “ไม่ลืมหรอก ใครจะลืมคีย์ได้”จูบแผ่วที่เรือนผมนุ่ม

      “จะรอคีย์มั้ย”

      “รอสิ”แต่มันจะมีทางอื่นอีกมั้ยที่เขาไม่ต้องรอ...เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาไม่อยากให้ฝนหยุดตกเลย

      “จงฮยอน...มันจะเป็นแบบนี้ไปตลอด 9 ปีนะ จะอดทนใช่มั้ย”

      “อืม...จะรอนะ ไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ แต่คีย์ต้องกลับมานะ”

      “กลับมาอยู่แล้วก็ไวน์ของจงฮยอนอร่อยนี่”ไม่อยากให้รู้สึกเศร้าไปมากกว่านี้เลยต้องหาข้ออ้าง จงฮยอนหัวเราะออกมา ลูบผมสีดำสนิทอย่างเบามือ

      “นอนซะ”คีย์หลับตาลงซุกหน้ากับอกอุ่น

      เขาเคยบอกจงฮยอนไปหรือยังนะว่าจริงๆแล้วภูตน่ะ ไม่ต้องนอนเยอะเหมือนมนุษย์ก็ได้ แต่เขาก็ชอบอยู่ในอ้อมกอดอุ่นแบบนี้ไปนานๆ
       

      ...อยากให้จงฮยอนกอดเขาแบบนี้ตลอดไป...
       
       











      ลมหนาวพัดผ่านประตูระเบียงเข้ามาทำให้ตุ๊กตาสีชมพูตัวน้อยเคลื่อนตัวไปตามสายลม เจ้าของร่างบอบบางนั่งกอดตัวเองอยู่ที่ปลายเตียง เมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าแวะมาทักทายเวลาของคีย์ก็จะหมดลง จงฮยอนมองคนที่นั่งเหงาอยู่ด่วยความรู้สึกเศร้าใจ ถึงคีย์ไม่พูดแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าพรุ่งนี้แล้วที่เขาจะต้องจากกับคีย์ จะไม่มีคนคอยกวนใจเขา ไม่มีคนขโมยไวน์ไปดื่มตอนเขาไปทำงาน ไม่มีเสียงหัวเราะสดใสและรอยยิ้มหวานต้อนรับเมื่อเขากลับบ้าน ไม่มีคนให้กอดนอนเหมือนหลายคืนที่ผ่านมา

      หากเขาขอพรได้...เขาจะขอให้คีย์อยู่กับเขาตลอดไป
       

      และ...ขอให้โลกนี้มีแต่ฤดูฝน
       

      “คีย์....”เจ้าของชื่อเงยหน้ามองคนเรียกแล้วส่งยิ้มให้ จงฮยอนกางแขนทั้งสองข้างออกคนตัวบางโผเข้าหาจนร่างหนาเซไปด้านหลังก่อนจะกอดอีกคนเอาไว้แน่น

      “อย่าลืมคีย์นะ อย่าลืมคีย์”เสียงหวานบอกอู้อี้ จงฮยอนได้แต่พยักหน้ารับคำเพราะพูดอะไรไม่ออก อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้วทั้งเขาและคีย์ตั้งใจว่าจะไม่นอน

      เรื่องของเขากับคีย์มันช่างเหลือเชื่อนัก เหมือนฟ้าแกล้งแต่ไม่ว่ายังไงเขาก็หลงรักภูตตนนี้ไปเสียแล้ว แม้รู้ดีว่าไม่มีวันใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนคนปกติแต่เขาก็ยินดียอมรับชะตาชีวิตที่เป็นเช่นนี้ ว่าทุกฤดูฝนเขาจะมีคีย์ตลอดไป

      จงฮยอนสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อแสงอาทิตย์ส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง สองตามองหาคนที่เขากอดเอาไว้แล้วเผลอหลับไปแต่ห้องทั้งห้องกลับว่างเปล่า
       

      ...คีย์ไปแล้ว...
       

      “คีย์....”ราวกับหัวใจได้หล่นหายไป เหลือทิ้งไว้แต่ภาพในวันวาน
       

      จงฮยอนแก้เชือกที่ผูกตุ๊กตาไล่ฝนออกจากหน้าประตูตู้เสื้อผ้า สายลมเย็นพัดเข้ามาเบาๆพร้อมกับการปรากฏกายของใครคนหนึ่ง

      “คุณคนหล่อ”จงฮยอนสะดุ้งตกใจหันมองแทมินตาโต จับตุ๊กตาตัวน้อยเอาไว้แน่น

      “น...นายเป็นใคร!!!”

      “คิก~ แทมินฮะ หรือว่าจะเป็นยูกึนดีละ?”คำตอบที่ได้รับทำให้จงฮยอนช็อคเข้าไปใหญ่

      “ผมมารับคีย์ ส่งเขามาให้ผมเถอะ”แทมินยื่นมือออกไปด้านหน้า แต่จงฮยอนไม่ยอมส่งของในมือให้

      “ส่งมาสิฮะ ผมต้องรีบไปแล้ว”แทมินเร่ง

      “ไม่คืนได้มั้ย ขอฉันดูแลคีย์ต่อไปได้หรือเปล่า”แทมินทำท่าคิดก่อนจะถามหยั่งเชิงดูก่อน

      “ถ้าผมไม่ให้ละ”

      “แต่ฉันไม่อยากคืนคีย์ให้นาย”

      “คิดว่าคุณจะดูแลคีย์ได้เหรอ ยังไงคุณก็ไม่อาจเจอคีย์ได้หรอกนะ จนกว่าจะถึงฤดูฝนปีหน้า หรือบางทีคุณก็อาจจะไม่ได้เจอด้วย ถ้าเจ้าของคนต่อไปไม่ใช่คุณ”

      “คีย์ต้องเปลี่ยนเจ้าของด้วยเหรอ”จงฮยอนถามอย่างแปลกใจ ในเมื่อคีย์สัญญาว่าจะกลับมาหาเขา นั่นก็ต้องหมายความว่าสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของก็ยังคงเป็นเขาไม่ใช่หรือ?

      “คิก~”แทมินหลุดหัวเราะออกมาเมื่อแกล้งคุณคนหล่อได้

      “ไม่หรอกฮะ คีย์เขาพอใจที่จะอยู่กับคุณน่ะ ว่าแต่จะไม่คืนเขาให้ผมจริงเหรอ”

      “ฉันจะดูแลคีย์เอง”

      “เอางั้นก็ได้”ใบหน้าน่ารักขยับขึ้นลง ก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องมาเสียเที่ยวแต่ก็อยากพิสูจน์ใจมนุษย์คนที่คีย์หลงรักดูว่าเขาจะให้ความสำคัญกับคีย์มากแค่ไหน

      “คุณรู้ใช่มั้ยว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีก 9 ปี”แทมินอดที่จะย้ำเรื่องเวลาไมได้ “กว่าจะถึงวันนั้นคุณจะรักและรอคีย์แบบนี้ตลอดไปหรือเปล่า”

      “ฉันสัญญากับคีย์ไว้แล้วไม่ว่านานแค่ไหนฉันก็จะรอและฉันก็จะรักเขาตลอดไป”

      เมื่อได้คำตอบที่พอใจแล้วแทมินจึงคิดว่าตัวเองควรไปเสียที

      “ดูแลคีย์ดีๆนะคุณคนหล่อ...บางทีมันอาจจะมีปาฏิหาริย์”พอสิ้นคำพูดร่างของแทมินก็หายวับไปให้จงฮยอนได้สะดุ้งตกใจอีกรอบ มือหนาประคองถือตุ๊กตาเอาไว้อย่างทะนุถนอม

      “แล้วเจอกันนะที่รัก...”
       
       
       










      “มินโฮเมื่อไหร่ฝนจะตกวะ?”

      “โหย มึงบ้าป่ะเนี่ย วันนี้ถามกูมากี่รอบแล้ว ถ้าตกเดี๋ยวมึงก็รู้เองละ เป็นไรวะ ปกติเกลียดฝนจะตาย”

      “ใครว่ากูเกลียดฝน กูชอบมากต่างหาก”มินโฮหันไปมองเพื่อนที่นั่งเหม่อมองฟ้าด้วยสายตาประหลาดใจ นับวันเพื่อนเขามันยิ่งเพี้ยนขึ้นทุกวัน นอกจากชอบถามว่าเมื่อไหร่ฝนจะตกตั้งแต่ฤดูหนาวยันเข้าฤดูร้อน บางทีก็ยังเห็นมันนั่งคุยกับตุ๊กตาอะไรสักอย่าง เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวทำหน้าเหมือนหมาหงอย นี่ถ้าไม่ติดว่าคุยกับเขารู้เรื่อง ทำงานได้ กินข้าวเป็นปกติละก็เขาคงคิดว่ามันบ้าไปแล้ว!

      “เมื่อเช้าได้ยินกรมอุตุฯประกาศนะว่าคืนนี้ฝนจะตกอ่ะ”

      “จริงเหรอ”หันมาถามด้วยความดีใจ

      “กูโกหกแล้วเงินเดือนกูเพิ่มมั้ยละ”นี่ก็กวนตีนกลับ

      “ไปถามหัวหน้าดูสิ ถ้าเขาไม่ไล่มึงออกก่อนโทษฐานไปจีบลูกสาวเขาแล้วทิ้งน่ะ”จงฮยอนพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะรีบเก็บของกลับบ้าน



      คืนนี้ฝนจะตก...เขาจะได้พบคีย์แล้วใช่ไหม...?
       
       


      เสียงฟ้าร้องดังมาจากที่ไกลๆพร้อมกับแสงสีขาวพาดบนท้องฟ้า เป็นสัญญาณบอกว่าฤดูฝนปีนี้กำลังจะเริ่มขึ้น ไม่นานหยาดน้ำจากฟ้าก็พากันไหลรินลงมาเป็นสาย
       

      ตุบ
      !
       

      “โอ๊ย!”เสียงที่ดังมาจากในห้องเร่งให้ร่างหนาวิ่งเข้ามาดูสิ่งที่เขาเห็นทำให้ต้องเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ


      “จงฮยอนบ้าจับคีย์ห้อยหัวทำไมเนี่ย! มึนไปหมดเลย”คนตัวเล็กบ่นอุบทำหน้างอ แต่อีกคนไม่ได้สนใจอะไรเลยคว้าร่างบางเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง

      “คิดถึงจะแย่อยู่แล้วคีย์”

      “คีย์ก็คิดถึงจงฮยอนนะ”คนตัวเล็กกอดตอบซุกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มลงบนอกอุ่น
       

      ตุ๊กตาไล่ฝนตัวน้อยที่ถูกจับห้อยหัวตรงหัวเตียงกำลังแกว่งไกวเบาๆ
       




      สายฝน ความรัก มาเยือนอีกครั้งแล้ว...







      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×